เปิดตัว “ร้อยไหมอิตาลี” นวัตกรรมร้อยไหมยกกระชับใบหน้าล่าสุดจากอิตาลี พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ “โอ๋-ภัคจีรา”

เปิดตัว “ร้อยไหมอิตาลี” นวัตกรรมร้อยไหมยกกระชับใบหน้าล่าสุดจากอิตาลี  พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ “โอ๋-ภัคจีรา”

เอ.เมนารินี บริษัทผู้นำด้านเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณและสุขภาพจากอิตาลีสร้างความฮือฮา เขย่าวงการความงาม จัดเวิร์คช็อปสุดเอ็กซ์คลูซีฟยกระดับนิยามแห่งความเรียวสวย เปิดตัว “ร้อยไหมอิตาลี นวัตกรรมร้อยไหมยกกระชับใบหน้าจากอิตาลี  ไหมแบรนด์แรกที่ได้รับทะเบียนจาก อย. ไทยเรื่องการยกกระชับใบหน้า มิติใหม่แห่งการร้อยไหมที่ใช้เพียงข้างละเส้นเดียว ลดการเจ็บ บวม ช้ำ ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลทันทีหลังทำ อยู่ได้นานถึง 12 – 15 เดือน พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ โอ๋-ภัคจีรา วรรณสุทธิ์” ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์ความประทับใจจากการร้อยไหมอิตาลี


โดยมี พญ.ฉัตรธิดา กุสุมภ์ Aesthetic Doctor แพทย์ผู้ฝึกสอนด้านการร้อยไหมประจำบริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด นายแพทย์ดนัยย์ ประดิษฐ์สุวรรณ์ Aesthetic Practitioner & Surgeon Founder & Doctor จาก DIAA Clinic และ วิทยากรรับเชิญด้านการร้อยไหมและวิเคราะห์ใบหน้า ประจำภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก มาร่วมเผยนวัตกรรมร้อยไหม พร้อมอัพเดทเทรนด์ความงาม 2020 กับบิวตี้กูรูและเมกอัพอาร์ทิสต์ชื่อดังของเมืองไทย ฟลุค-รพี ชูสุวรรณ (Alwaysfluk) โดยมีบรรดาบิวตี้บล็อกเกอร์ และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังของเมืองไทย อาทิ Sononui, Airrlikaa, Miss Pimpaka และ Tyffvathu ตบเท้าร่วมงานคับคั่ง

พญ.ฉัตรธิดา กุสุมภ์ Aesthetic Doctor เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด แพทย์ผู้ฝึกสอนด้านการร้อยไหมกล่าวว่า การร้อยไหมเป็นหนึ่งในวิธีการปรับปรุงโครงสร้างใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า หรือแก้ไขปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยตามวัย แต่ไม่ต้องการผ่าตัด สิ่งที่ทำให้ไหมอิตาลีแตกต่างนั้นเริ่มต้นที่วัสดุที่ใช้ผลิตเส้นไหม คือ poly L-lactide-co-ε-caprolactone หรือเรียกสั้นๆ ว่า p[LA-CL] ซึ่งมีผลการทดสอบว่ามีความแข็งแรงและความยืดหยุ่นเหนือกว่าวัสดุผลิตไหมชนิดอื่น จึงสามารถให้ผลการรักษาที่ชัดเจนได้ด้วยการร้อยเพียง 1 เส้นต่อข้าง คนไข้จึงเจ็บน้อย บอบช้ำน้อยมาก และแทบจะไม่ต้องพักฟื้น นอกจากนี้  วัสดุ p[LA-CL] สามารถอยู่ในร่างกายได้อย่างปลอดภัยนาน 12-15 เดือน ก่อนที่จะสลายตัวไปเอง และในระหว่างที่เส้นไหมสลายตัวก็จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อิลาสติน   และไฮยาลูรอนิกในชั้นผิวได้ ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นการยกกระชับแบบ Double-action คือได้การยกกระชับทันทีหลังรัอย
จากแรงดึงของเส้นไหม และได้คุณภาพผิวที่ค่อยๆดีขึ้น ทำให้ผิวกระชับขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกหลายเดือนหลังรับการรักษา   นวัตกรรมนี้ได้นำเสนอแนวคิดใหม่ของการร้อยไหมซึ่งต่างจากวิธีเดิมๆ ที่ต้องร้อยไหมครั้งหลายสิบเส้น ทางบริษัทจึงมุ่งเน้นการฝึกอบรมให้ความรู้แก่แพทย์และพัฒนาเทคนิคการร้อยแบบใหม่ๆ ร่วมกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง”

นายแพทย์ดนัยย์ ประดิษฐ์สุวรรณ์ Aesthetic Practitioner & Surgeon Founder & Doctor จาก DIAA Clinic และ วิทยากรอบรมด้านการร้อยไหมและวิเคราะห์ใบหน้า ประจำภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่า “การจะร้อยไหมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้น นอกจากการเลือกรับการรักษาในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานแล้ว การเลือกเส้นไหมที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงและได้รับทะเบียนจากอย.ว่าเป็นเส้นไหมเพื่อการยกกระชับใบหน้านั้นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ซึ่งไหมอิตาลีก็ตอบโจทย์นี้ เทคนิคมาตรฐานของไหมอิตาลีที่มีถึง 7 เทคนิค ก็ช่วยแก้ไขความหย่อนคล้อยของใบหน้าในแต่ละบริเวณได้อย่างเจาะจง เช่น การทำให้กรอบหน้าคมชัดด้วย Jawline Reshaping technique หรือปรับรูปหน้าให้เป็น V shape ด้วย Oval Reshaping technique เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้หลายเทคนิคร่วมกันได้เพื่อผลลัพธ์ที่หลากหลายและดียิ่งขึ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือใบหน้าของคนทุกคนมีความแตกต่างกัน และคน 2 คนที่ต้องการผลลัพธ์แบบเดียวกัน แต่มีรูปหน้าและระดับความหย่อนคล้อยต่างกันก็จะใช้วิธีการรักษาไม่เหมือนกัน แพทย์ที่จะร้อยไหมได้ดีจึงต้องผ่านการฝึกอบรมเพื่อให้มีความเข้าใจเส้นไหมแต่ละชนิด สามารถวิเคราะห์ใบหน้าของคนไข้ได้อย่างแม่นยำ เลือกเทคนิคได้อย่างเหมาะสม และร้อยไหมได้อย่างปลอดภัย”

 

โอ๋-ภัคจีรา วรรณสุทธิ์ ร่วมแชร์ประสบการณ์ความประทับใจจากการร้อยไหมอิตาลีว่า “สำหรับโอ๋ถ้าทุกคนได้เห็นผลลัพธ์ที่อยู่บนหน้าโอ๋ในตอนนี้ ก็คงจะบอกได้คำเดียวว่ามันอเมซซิ่งมากๆค่ะ คือโอ๋เป็นคนที่รักสวยรักงาม และต้องใช้หน้าตาในการประกอบอาชีพอยู่แล้ว ก็เคยมีทำอย่างอื่นมาบ้าง แต่เรื่องร้อยไหมนี่บอกตรงๆว่าก่อนหน้านี้โอ๋ไม่กล้าทำเลย โอ๋ค่อนข้างให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพ มาตรฐานความปลอดภัย เช็คเยอะมากกว่าจะตัดสินใจทำอะไรบนใบหน้า ที่สำคัญคือโอ๋กลัวเจ็บ และต้องทำงานทุกวัน ไม่สามารถพักหน้าได้ พอทางเอ.เมนารินี ติดต่อมาว่ามีนวัตกรรมร้อยไหมจากอิตาลี เป็นไหมแบรนด์แรกที่ได้รับ อย.ไทยในฐานะไหมยกกระชับ และเล่าให้ฟังถึงความพิเศษของไหมชนิดนี้ โอ๋ตอบตกลงทันทีเลยค่ะ ตอนทำคือเตรียมใจไว้นิดนึง แต่สรุปคือไม่เจ็บ ไม่ช้ำ ไม่ต้องพักฟื้นเลย แล้วผลลัพธ์ที่ได้คือดี
เกินคาด ดีจนเพื่อนๆในวงการแซวว่าโอ๋เหมือนย้อนอายุไปตอนเข้าวงการใหม่ๆ ก็รู้สึกแฮปปี้กับหน้าตัวเองในตอนนี้มากๆค่ะ ก็ขอบคุณทางแบรนด์ที่นำนวัตกรรมนี้เข้ามาให้คนไทยได้ใช้ และขอบคุณที่เลือกโอ๋เป็นพรีเซ็นเตอร์ อยากให้ทุกคนได้มาลองด้วยตัวเองนะคะ แล้วจะติดใจแบบโอ๋”

 โดยภายในงานเปิดตัวไหมอิตาลีและการอัพเดทนวัตกรรมร้อยไหมข้างละเส้นเดียวยกกระชับทั้งใบหน้า ได้รับเกียรติจากคลินิค Agaligo Clinic, Anjali Clinic, U&P Clinic และ The Clover Clinic รวมถึงเหล่า Beauty Blogger และ อินฟลูเอนเซอร์ด้านความงาม อาทิ Sononui,  Airrlikaa, Miss Pimpaka และTyffvathu มาร่วมอัพเดทเทรนด์ แลกเปลี่ยน Make up Trend ครึ่งปีหลัง 2020 กับวิธีการดูแลสุขภาพผิวและการแต่งหน้ากับ ฟลุค-รพี ชูสุวรรณ (Alwaysfluk) บิวตี้กูรูและเมกอัพอาร์ทิสต์ชื่อดังของเมืองไทย ที่มาร่วมพูดคุยอย่างออกรส พร้อมแขกรับเชิญพิเศษ ปอนด์-ธนฤทธิ์ แสงสิน Fashion Stylist เจ้าของเพจ Fashion Take Note มาร่วมแชร์ประสบการณ์การดูแลตนเอง พร้อมให้คุณหมอวิเคราะห์รูปหน้าเพื่อเสริมลุคให้มั่นใจในทุกมุมมอง

 

 



ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *