“ธนันท์วรุตม์ ลิ้มทรงพรต” CEO สายบุญสุดสตรอง ส่งกำลังใจ เดินหน้าสู้โควิด-19 เราจะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน

“ธนันท์วรุตม์ ลิ้มทรงพรต” CEO สายบุญสุดสตรอง ส่งกำลังใจ เดินหน้าสู้โควิด-19  เราจะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน

ยักษ์ใหญ่แห่งภาคกลาง ยืนหนึ่งธุรกิจลิสซิ่ง-อสังหาฯ-และอีกมากมาย ในชื่อ “ศรีสมบูรณ์กรุ๊ป” หลังจาก CEO เจนฯใหม่ “ธนันท์วรุตม์ ลิ้มทรงพรต” ได้เข้ามาบริหารพาธุรกิจโตสวนกระแสเศรษฐกิจ จนขึ้นแท่นเป็นนักธุรกิจไฟแรงเจ้าเสน่ห์ไอดอลของใครหลายๆ คน อินไซด์ภายนอกออกแนวลุคบิซซิเนสแมนขนาดนี้ แต่หารู้ไม่ว่าตัวจริงเสียงจริงชอบตระเวนเดินสายออนทัวร์ทำบุญสุดๆ แม้ว่าช่วงโควิด-19 ระบาดก็ไม่แผ่ว จนล่าสุด CEO สายบุญสุดสตรอง ได้ออกมาแจ้งข่าวว่าขอพักรักษาตัวสักระยะ เพราะติดโควิด-19 จากการเดินสายทำบุญ พร้อมส่งกำลังใจให้คนที่ติดเชื้อและอยู่ในกลุ่มเสี่ยงทุกคนให้สามารถผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน

             โดย “ธนันท์วรุตม์ ลิ้มทรงพรต” CEO ศรีสมบูรณ์กรุ๊ป เปิดใจว่า  “ผมเป็นคนชอบทำบุญมาก ชอบไปทำบุญที่วัดทุกที่เลยครับ แต่จะเน้นวัดที่ไม่เจริญ ชอบช่วยเหลือสัตว์พิการ หรือสัตว์เจ็บป่วย ตามมูลนิธิต่างๆ แล้วก็คนที่ขาดแคลนครับ ส่วนที่ชอบทำบุญไม่ใช่เพราะเรามีเยอะนะครับ แต่เป็นเพราะครอบครัวปลูกฝังมาให้ช่วยเหลือผู้อื่น ถ้าเรามีน้อยเราก็ช่วยตามกำลังที่เรามี ถ้าเรามีมากเราก็ช่วยคนได้หลายคน ช่วงโควิดก็ยังคงเดินสายทำบุญไม่ได้หยุด ถามว่ากลัวมั้ย ไม่กลัวเลย คือช่วงแรกของโควิดกลัวนะครับ แต่พออยู่มาสองปีเริ่มชินและคิดว่าเราต้องอยู่กับโรคโควิดให้ได้ จึ่งเรียนรู้ที่จะรู้กับโรคนี้ แต่ก็อย่างว่าล่ะครับ ใน 700 กว่าวัน เราก็มีพลาดกันบ้าง “

              CEOสายบุญสุดสตรอง เผยต่ออีกว่า ถึงแม้จะระวังตัวมากแค่ไหน แต่ก็ยังหนีไม่พ้น ติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างเดินสายทำบุญ  พร้อมฝากส่งกำลังใจให้ทุกคน ก้าวผ่านเวลาที่ยากนี้ไปพร้อมๆ กัน

             “ล่าสุดก็ติดโควิดจากการไปทำบุญ แต่ผมมองว่าอาจจะเพราะความระวังที่ไม่มากพอของเราเองที่ทำให้ติดโควิดในรอบนี้ครับ พอรู้ผลก็ไม่รู้สึกอะไรเลยครับ ผมมองว่าเป็นความโชคดีของเรามากกว่า ที่จะได้รับภูมิคุ้มกันจากธรรมชาติ และสายพันธุ์โอไมคอนก็ไม่ได้รุนแรงมาก รักษาตัวไม่นานก็หายแล้วครับ ผมเชื่อนะครับว่าเหรียญมีสองด้าน อยู่ที่เราเลือกที่จะมองว่ามองในแง่ดีหรือแง่ร้าย ถ้าเรามองในแง่ร้ายอาจจะทำให้ร่างกายเราทรุดโทรมกว่าเดิม แต่พอเรามองในแง่ดีร่างกายก็ฟื้นตัวไวมากครับ ผมเลือกมองในแง่ดี และไม่จมไปกับความทุกข์ที่อาจจะเกิดจากใจเราได้ครับ ในส่วนอาการของผม ก็มีเพียงแค่ไอกับเจ็บคอครับ แต่ด้วยกำลังใจที่ดีจากครอบครัว คุณแม่ พี่ๆ เพื่อนๆ โทรมาหาเช้า สาย บ่าย เย็น ทุกวัน ก็เลยเป็นกำลังใจที่ดีให้ผมหายไว ถึงขนาดมีเพื่อนบอกว่า ดูไม่เหมือนคนป่วยเลย ถามว่าผมกลัวมั้ย ก็ไม่กลัวนะครับ โรคนี้อยู่กับเรามา 2 ปีกว่าแล้ว และผมเชื่อว่า ก็จะยังอยู่กับเราไปเรื่อยๆ ถ้าเรากลัวคงใช้ชีวิตไม่คุ้มแน่ๆ นอกจากนั้นผมยังมองว่า โควิดครั้งนี้ ให้บทเรียนชีวิตว่าทุกอย่างมีสองด้านจริงๆ การที่เราได้อยู่คนเดียวในห้องระหว่างรักษาตัว ทำให้ได้เห็นภาพ ได้เห็นความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น ในขณะที่เราทำงานข้างนอก ก็จะมีแต่เรื่องงาน ทำให้เราอยู่กับตัวเองน้อยกว่านี้ครับ”

ท้ายที่สุดนี้ “ธนันท์วรุตม์ ลิ้มทรงพรต” CEO ศรีสมบูรณ์กรุ๊ป  ยืนยันโควิดระลอกใหม่นี้ไม่กระทบธุรกิจ ขอเพียงอย่าท้อแท้ ทุกอุปสรรคคือบททดสอบความสตรองในชีวิต  “ผมยังเชื่อเสมอนะครับว่า ตอนนี้ทุกคนเรียนรู้ที่จะอยู่กับโควิดได้แล้ว ผมขอฝากแง่คิดให้กับทุกคนว่า ทุกอย่างมันมีสองด้านเสมอ ถ้าเรามองโลกในแง่บวก ทุกๆ อุปสรรคหรือเป็นปัญหาที่เข้ามาในชีวิต มันคือโอกาสที่จะทำให้เราได้มองเห็นโลกกว้างขึ้น โตขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เราสามารถคิดหาวิธีจัดการแก้ปัญหาทุกอย่างได้หมดแล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรก็แล้วแต่ เมื่อเราแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้หมด เราจะมองเห็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ แต่ถ้าหากเรามองโลกในแง่ลบปัญหาที่เกิดขึ้นมันคือโลกทั้งใบของเรา โดยที่เราไม่ได้มองว่าปัญหาเหล่านั้นมันอาจจะการสร้างโอกาส สร้างมุมมองใหม่ๆ สำหรับการมองโลกให้เราก็ได้ อยู่ที่เราเลือกที่จะมอง ถ้าเราเลือกที่จะมองด้านที่ดี เพื่อเพิ่มพลังบวกให้ตัวเอง ทุกอย่างก็จะดีครับ ใช้พลังบวกจากตัวเองและคนรอบข้าง ในการก้าวผ่านทุกอย่างไม่ว่าจะโควิดหรืออุปสรรคอื่นๆ ผมว่ามันช่วยได้จริงนะครับ และขอฝากถึงคนไทยที่กำลังเผชิญกับวิกฤตินี้ ไม่ต้องเครียด หรือท้อแท้นะครับ ทุกอุปสรรคที่เข้ามาจะเป็นบททดสอบว่าเราแข็งแกร่งพอที่จะเดินต่อไปและสอนเราให้เติบโตอย่างแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ผมเชื่อว่าเราวันนี้กับเราเมื่อวานก็ต่างกันแล้วครับ เพราะฉะนั้น มองทุกอย่างในแง่บวก แล้วผลลัพธ์จะออกมาดีแน่นอนครับ”



ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *